ต้องบอกว่าเป็นสาวสวยมากความสามารถอีกหนึ่งคนของวงการ สำหรับ แนท อนิพรณ์ เจ้าของตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ปี 2558 และผู้เข้ารอบสิบคนสุดท้ายมิสยูนิเวิร์ส พร้อมกับรางวัลชุดประจำชาติยอดเยี่ยม
หลายคนอาจจะคิดว่าสาว แนท มีชีวิตที่แสนจะเพียบพร้อม แต่จริง ๆ แล้วเธอกลับมีปมฝังลึกอยู่ในใจ เมื่อได้ยินประโยคนี้จากคุณตา “ไม่ต้องห่วง….ตาจะไปอยู่บ้านพักคนชราเพื่อไม่ให้หลานต้องลำบาก” ทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปทันที เพราะเธอตัดสินใจทำทุกอาชีพที่สร้างรายได้ให้กับครอบครัว ทั้งงานขายของ แสดงละคร หรือแม้กระทั่งเดินแบบ เพื่อป้องกันไม่ให้วันนั้นเกิดขึ้นกับคนที่เธอรักเป็นอันขาด
โดยสาว แนท เล่าชีวิตวัยเด็กให้ฟังว่า “ตั้งแต่เด็กก็อยู่กับแม่และตายาย มีพี่สาวกับน้องสาว ส่วนพ่อเลิกกับแม่ไปตั้งแต่แนทยังจำความไม่ได้ ต้องช่วยแม่ขายของที่ตลาด จนแม่ย้ายไปทำงานที่เชียงใหม่ ก็อยู่กับตายายมาตลอด เวลากินข้าวกันในครอบครัว ตาจะไม่กินเนื้อสัตว์โดยโกหกว่าไม่ชอบ แต่มารู้ทีหลังว่าจริง ๆ แล้วคือเก็บเอาไว้ให้แนทกับพี่น้องกิน
พอเรียนถึงชั้นมัธยม ตาก็ปลดเกษียณแต่กลับเอาเงินบำเหน็จมาเปิดร้านขายของ แล้วยังไปออกรถตู้มารับส่งนักเรียนอีก แนทสงสัยว่าทำไมทำงานเยอะจัง ตาก็บอกว่าเหงา กว่าจะรู้ความจริงว่าตาทำแบบนี้เพื่อหาเงินมาเลี้ยงดูเรา ก็คือวันที่ตาขับรถชนคนอื่นเพราะไม่สบาย
แต่เรื่องที่ทำให้แนทอึ้งไปและทำใจไม่ได้เลย คือ ตอนใกล้จะเข้ามหาวิทยาลัยตาพูดขึ้นมาว่า “ตาจะไปอยู่บ้านพักคนชรา จะได้ไม่เป็นภาระของหลาน ๆ” โห…จำได้ว่าร้องไห้เยอะมาก (ตาแดง) ตาดูแลเรามาดีมาก เค้าเหนื่อยมาทั้งชีวิตแล้ว ตอนแก่ควรจะได้อยู่อย่างสบาย ไม่ใช่ไปอยู่บ้านพักคนชรา ประโยคนี้ประโยคเดียว เปลี่ยนชีวิตแนทไปเลย สัญญากับตัวเองทันทีว่าจะไม่ให้วันนั้นเกิดขึ้นเด็ดขาด
ช่วงนั้นไปเรียนติวด้วย ไปทำงานหลายอย่างด้วย เหนื่อยมากแต่โกหกว่าไม่เหนื่อย จนสอบติดและมีผู้ใหญ่ชวนให้เข้ามาเป็นนางแบบ ก็ทำเพื่อหาเงินไว้ดูแลตากับยาย บางงานเรารู้สึกว่าทำได้ไม่ดีอย่างเล่นละครกลับมาร้องไห้ตลอด แต่ตากับยายอยากเห็นแนทก็ไปทำ เรียกว่างานสุจริตอันไหนที่ได้เงินก็ทำหมด จนตอนนี้แนทซื้อบ้านให้ตากับยายอยู่ก็มีความสุขที่สุดแล้ว (ยิ้ม)” งานนี้ทำเอาแฟน ๆ เข้ามาคอมเมนต์ชื่นชมความกตัญญูของเธอกันเป็นจำนวนมาก
ขอบคุณภาพจากอินสตาแกรม potter_natt