ถ้าพูดถึงซุปตาร์ยอดนักบู๊ชาวฮ่องกง หลายคนคงรู้จัก เฉินหลง หรือ แจ๊กกี้ ชาน กันเป็นอย่างดี ซึ่งก่อนหน้านี้เขาตัดสินใจมอบทรัพย์สินทั้งหมดของตัวเอง ที่ถูกประเมินมูลค่าไว้สูงถึง 2,200 ล้านเหรียญฮ่องกง หรือราว 8,800 ล้านบาท ให้กับมูลนิธิการกุศลและ หลินฟ่งเจียว ภรรยาคู่ทุกข์คู่ยาก
โดยมีการกล่าวอ้างว่า เฉินหลง ในวัย 59 ปี ได้รับการสนับสนุนการตัดสินใจครั้งนี้จากภรรยาของเขา ทำให้ อู๋จั๋วหลิน ลูกสาวอีกคนของเขาที่เกิดจาก อู๋ฉีลี่ นักแสดงสาวฮ่องกง เมื่อปี 1999 ต้องหมดสิทธิ์ได้รับมรดกไปโดยปริยาย โดย เฉินหลง บอกว่าไม่ต้องการที่จะรับรู้เรื่องบุตรสาวนอกสมรส แม้ยอมรับว่าเป็นทายาทของตัวเองก็ตาม ขณะที่ เฉิน จู่หมิง หรือ เจย์ซี ชาน บุตรชายที่เกิดกับ หลินฟ่งเจียว ก็จะไม่ได้รับมรดกด้วยเช่นกัน
สำหรับสาเหตุที่ เฉินหลง ไม่ต้องการให้มรดกใด ๆ แก่บุตรชายหัวแก้วหัวแหวนของตัวเอง เนื่องจากต้องการให้ เจย์ซี ใช้ความสามารถหาเงินเอง ไม่ใช่มารอรับมรดกจากเขา ขณะที่ อู๋ฉีลี่ ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ หลังจากที่เคยประกาศอย่างชัดเจนก่อนหน้านี้แล้วว่า เธอจะไม่ขอรับเงินสักบาทเพื่อเป็นค่าแยกทางกับซูเปอร์สตาร์เอเชีย และไม่ต้องการที่จะพูดถึงเรื่องที่เป็นอดีตไปแล้ว
แต่ผ่านไปเพียง 2 ปี ต้องบอกว่าสายเลือดตัดกันไม่ขาด นักแสดงชื่อดัง เฉินหลง ก็เปลี่ยนใจปรับพินัยกรรม ยกมรดก 5.1 หมื่นล้านบาท ให้บุตรชายหนึ่งเดียวของเขา หลัง เจย์ซี ชาน สำนึกผิดที่ ติ ด ย า จนต้องติด คุ ก นานถึง 6 เดือน แม้ว่าก่อนหน้านี้ เขาประกาศว่าจะยกสมบัติทั้งหมดให้การกุศลและ หลินฟงเจียว ภรรยาของเขาเท่านั้น
โดยหลังจาก เจย์ซี ชาน สำนึกผิด และขอโทษพ่อแม่ บรรยากาศภายในครอบครัวก็ดีขึ้น และล่าสุด เฉินหลง ได้กล่าวว่า “ถ้าผมไม่ยกสมบัติทั้งหมดให้ เจย์ซี แล้วใครจะเป็นคนได้มัน ทุกอย่างจะถูกยกให้เขา เขาเป็นบุตรชายของผม และผมเป็นพ่อ เรื่องนี้เปลี่ยนแปลงไม่ได้”
เรียบเรียงโดยทีมงาน เล่าเรื่องข่าวรอบวัน
